Follow us on
พลังงานที่มองไม่เห็นที่ถูกซ่อนไว้ในไม้ โลหะ และหิน

พลังงานที่มองไม่เห็นที่ถูกซ่อนไว้ในไม้ โลหะ และหิน

บุคคลจำนวนมากมีลูกปะคำที่ทำจากไม้ หิน หรือจี้เครื่องรางเป็นของประจำตัว ที่มีคุณค่าทางใจและความศรัทธา รวมถึงวัตถุธาตุกายสิทธิ์จากปรมาจารย์ด้านประเพณี เช่นกล่องบรรจุแบบพิเศษ งานปัก เครื่องราง วัตถุศักดิ์สิทธิ์ ที่ทำจาก หิน อัญมณี ไม้ หนัง ผ้าฝ้ายดิบ เมล็ดพันธ์ ยางไม้ วัตถุจากธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับพลังงานที่มองไม่เห็น ที่วัตถุดูดซับและปลดปล่อยออกมา

ลูกประคำไม้สวดมนต์มีพลังงานเฉพาะของตนเอง และปราณชีวิตผู้สร้างแกะสลัก รวมถึงปราณศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์ เมื่อเก็บในกล่องโลหะจะถูกเก็บกักพลังและป้องการไม้ดูดซับพลังงานไม่พึงประสงค์ ทำไมลูกประคำที่ทำจากหินบางประเภทเมื่อบางบุคลนำมาถือมันไว้ในมือ จะรู้สึกเหมือนมีพลังงานไหลอ่อนๆ

งานวิจัยของดร. วิลเฮล์ม ไรช์ จิตแพทย์ชาวออสเตรีย เกี่ยวกับพลังงานชีวิตสากล "ออร์กอน" ให้ข้อสังเกตจากมุมมองนักวิทยาศาสตร์ว่า วัสดุอินทรีย์ดูดซับและกักเก็บออร์กอน ในขณะที่โลหะดึงดูดและปล่อยออกสู่ภายนอกทันที สิ่งนี้คล้ายกับคุณสมบัติของการนำไฟฟ้ามาก อิเล็คทริคจะเก็บประจุเช่นเดียวกับตัวเก็บประจุและตัวนำก็นำไฟฟ้า

ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ กระดูก ขนสัตว์ หนัง และอินทรียวัตถุอื่นๆ โดยธรรมชาติแล้วสะสมพลังงานอันละเอียดอ่อน ซึ่งสะท้อนให้เห็นจากพลังของ "ความส่องสว่าง" ที่ผู้หยั่งรู้ระบุไว้ ยิ่งคุณสมบัติการดูดซับของวัสดุมีความเข้มข้นเท่าใด แสงที่ปล่อยออกมาก็จะยิ่งอ่อนลงเท่านั้น ขนสัตว์ ผ้าฝ้าย และเส้นใยธรรมชาติอื่น ๆ มีรังสีที่อ่อนแอที่สุด ดังนั้นพรมขนสัตว์บนผนังจึงเป็นตัวสะสมออร์กอนที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับการปักและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำจากผ้าธรรมชาติและขนสัตว์ เสื้อคลุม หมวก กระเป๋าทอและหนังสำหรับสายประคำ ฯลฯ คุณค่าของสิ่งเหล่านี้ ล้ำค่าในความเป็นวัตถุโบราณ และยังรวมถึงคุณค่าทางพลังงานที่สะสมด้วย เมื่อมีอายุวัตถุมากขึ้น ผ่านการใช้มากขึ้น ทั้งวัตถุและผู้ใช้ก็ยิ่งพัฒนาพลังงานสูงขึ้น

ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยวัตถุอินทรีย์ สามารถโต้ตอบกับพลังงานที่สะสมในวัตถุอินทรีย์อื่น ๆ โดยให้หรือดูดซับได้ สิ่งนี้อธิบายได้จากความเคารพศรัทธาที่ชุมชนมีต่อนักบวชของพวกเขา และการปฏิบัติ การเคารพบูชาต่อวัตถุที่ได้รับมอบจากปรมาจารย์ นักบวช ทั้งเพื่อส่วนตัวและสำหรับชุมชน

ไม่ว่าจะเป็นหิน ไม้ หรือวัสดุอื่นๆ เช่น เขาสัตว์ งาช้าง งา ฯลฯ – วัสดุธรรมชาติมีความสามารถในการกักเก็บ ดูดซับ และปล่อยพลังงาน คนก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเช่นกัน และสามารถโต้ตอบกับวัสดุธรรมชาติได้ดี ทั้งในด้านสัมผัสหรือการมองเห็นจับต้องได้ และจับต้องไม่ได้ในพลังงานที่มองไม่เห็น

เราจะพบว่าถ้าพื้นที่ปิดถูกสร้างขึ้นจากพื้นผิวโลหะ ผลของการสะท้อนหลายครั้งจะทำให้เราสามารถ "จับ" ออร์กอนภายในพื้นที่นั้นได้ เราสามารถดูดซับได้โดยการวางวัตถุอินทรีย์ไว้ในกล่องโลหะ แล้วใช้พลังงานที่สะสมไว้

Image link

อาจารย์ซูฟี อิดริส ชาห์ เคยให้คำแนะนำแก่นักเรียนของเขาอย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ :
วางลูกประคำไม้ลงในกล่องแล้วเก็บไว้ที่นั่นโดยปิดฝาไว้ สารที่ลงมาจากด้านบนเข้มข้นอยู่ในกล่อง (โลหะ: เงิน ทองเหลือง และทองแดง) และถูกดูดซับโดยอินทรียวัตถุของลูกประคำ (ไม้) พวกมันทำหน้าที่เหมือนแบตเตอรี่ จากนั้นถือลูกประคำในมือขวาแล้วลองรู้สึกถึงผลกระทบของสารที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของคุณ คุณอาจรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตเล็กน้อยหรือมีสมาธิเพิ่มขึ้น เอฟเฟคอื่น ๆ ก็เป็นไปได้เช่นกัน

Image link
Image link

หลังการฝึกฝนพลังจิต ให้ถือลูกประคำอีกครั้ง ร่างกายและจิตใจจะมีสมาธิจดจ่อกับสารบางอย่าง ซึ่งเราจะไม่สามารถเก็บไว้ในตัวเองได้ เนื่องจากการคิดและการกระทำที่เชื่อมโยงกันขัดขวางการไหลของพลังงาน ทำให้ลูกประคำดูดซับพลังงานจนอิ่มตัว หลังจากนั้น ใส่ลูกปะคำกลับเข้าไปในกล่องพลังงานที่ถูกดูดซับจะถูกเก็บไว้จนกว่าจะใช้งานครั้งต่อไป ปฏิบัติด้วยอย่างสงบโดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ แค่สังเกตความรู้สึกเท่านั้น เป้าหมายคือการเรียนรู้ที่จะบันทึกความรู้สึกของการได้รับสารที่ไหลเข้าและออก เพื่อเรียนรู้ที่จะรับรู้กระบวนการรับแรงกระตุ้น (สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า)

บุคคลหนึ่งรู้สึกเหมือนมีของเหลวไหลออกมาเล็กน้อยเมื่อสัมผัสลูกประคำ นี่อาจเป็นผลมาจากความอิ่มตัวของวัสดุที่มี "ออร์กอน" สะสมตามข้อมูลของไรช์ มีความเข้มข้นสูง สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนหรือไฟฟ้าได้

บุคคลหนึ่งรู้สึกเหมือนมีของเหลวไหลออกมาเล็กน้อยเมื่อสัมผัสลูกประคำ นี่อาจเป็นผลมาจากความอิ่มตัวของวัสดุที่มี "ออร์กอน" สะสมตามข้อมูลของไรช์ มีความเข้มข้นสูง สามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนหรือไฟฟ้าได้

การดูดซับกักเก็บ รับ-ส่ง พลังงานของ Kkangah
Tekke หรือ Kkangah หมายถึงสถานที่รวมตัวของกลุ่มภราดรภาพนักบุญซูฟี หรือสถานที่นักบวชดารืริชมารวมตัวกันเพื่อปฏิบัติธรรมศึกษาศาสนาร่วมกันระยะหนึ่ง พื้นปูด้วยหิน กำแพงหนาก่อจากหินปูนเปลือย ซึ่งเป็นอินทรียวัตถุมีคุณสมบัติดุดซับดีเยี่ยม บนผนังของ Sufi tekkiyas มักจะเห็นถาดโลหะบรอนซ์หรือทองแดงที่มีลวดลายและการประดิษฐ์ตัวอักษรที่แสดงเจตนาเฉพาะขนาดใหญ่แขวนอยู่ สิ่งนี้มิเพียงมีคุณค่าทางสุนทรีย์ภาพเท่านั้น แต่เป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์สำหรับส่งความรู้และข้อมูลด้วย จุดประสงค์หลักคือทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณ โดยสร้างพลังงานและปลดปล่อยแผ่ออกไปในทุกทิศทางที่เลือก (กล่าวกันว่าถูกคำนวณด้วยเรขาคณิตศักดิ์สิทธิ์โดยภูมิปัญญาของปราชญ์ซูฟี) แผ่นนูนที่มีลวดลายพิมพ์ประทับอยู่ ถูกยึดติดไว้กับผ้าสีแดงสดสะท้อนแสงสว่างเล็กน้อย ไม่มีอะไรอื่นอยู่บนผนัง ในระหว่างพิธีกรรม วัตถุส่งพลังงานจะโฟกัสไปที่ใจกลางห้องโถง ที่เหล่านักบวชกำลังเต้นรำอยู่ ( แหล่งที่มา :: The Sufi Message - Sufi Mysticism )

ในห้องทำสมาธิต้องมีวัตถุที่แผ่รังสีและดูดซับพลังงานมารวมกันอย่างเหมาะสม รูปแบบหรือการนูนของพื้นผิวสะท้อนแสงของวัตถุมีความสำคัญในการทำให้รังสีมีรูปแบบที่ต้องการ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ภูมิความรู้นี้ต้องมีในผู้เชี่ยวชาญการออกแบบเหรียญกษาปณ์มานับแต่ยุคโบราณ

หินดูดซับและรักษาลายเซ็นพลังงานอันละเอียดอ่อนของเจ้าของไว้ พวกเขาสามารถส่งสสารที่มาจากภายนอกและเบื้องบนมาให้เราได้ด้วย สามารถใส่ในกล่องเพื่อใช้งานได้เหมือนกับลูกประคำไม้ แต่ไม่ควรเก็บหินไว้ในกล่องที่ทำด้วยไม้ บางคนได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้คริสตัล บางคนได้รับประโยชน์จากไม้ มันเป็นเรื่องของการทดลองส่วนบุคคล

การดูดซับรับสัมผัสพิเศษจากลูกปัดหิน ไม้ หรือโลหะ ในแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันตามแก่นแท้ของธาตุประจำตัว บางบุคคลรับกระแสพลังงานลูกปัดคริสตัลได้ดี บางคนเหมาะกับลูกปัดไม้ หรือเมล็ดพันธ์ ( เช่นเม็ดรุทรักษะ ) บางบุคลรับกระแสจากโลหะได้ดี หรืออาจจะผสมผสาน ไม้ เมล็ดพันธ์ คริสตัล และโลหะด้วยกันก็จะเกิดการผสมผสานพลังงานที่มีพลังงานแข็งแกร่ง บุคคลต้องทดลองการซึมซับรับพลังงานด้วยตนเอง และใช้บ่อย สัมผัสรับ-ส่งพลังงานของตนเองเป็นประจำ

Image link

สิ่งที่ทำด้วยมือของมนุษย์สามารถมีชีวิตมีจิตวิญญาณ และบำบัดรักษาได้ นำโชคดีความรุ่งเรืองมาให้ ยิ่งบุคคลมีพัฒนาการทางจิตวิญญาณสูงเท่าใด วัตถุที่เขาสร้าง (หรือแม้แต่วัตถุที่เขาใช้เป็นเวลานาน) ก็ยิ่งมีพลังฤทธานุภาพมากขึ้นเท่านั้น เช่นวัตถุธาตุของปรมาจารย์ก็จะมีพลังชีวิตกำลังปราณระดับสูงของอาจารย์ด้วย มือของมนุษย์คือเครื่องรับ-ส่งพลังงานพลานุภาพสูง พลังจิตเดินทางผ่านกระแสปราณผ่านมือ เคลื่อนเข้าซึมซับลงสู่วัตถุ

ลูกประคำทำสมาธิหรือสวดมนต์ เมื่อใช้สำเร็จแล้วทุกครั้งควรเก็บไว้ในถุงหรือกล่อง บางคนอาจสวมลูกประคำไว้รอบคอหรือบนแขนตลอดเวลา ก็ทำได้ แต่อย่าหมุนลูกประคำอย่างไม่ระมัดระวังในระหว่างการสนทนาทั่วๆไป เพราะลูกปัดหรือลูกประคำจะซึมซับพลังงานอารมณ์ทั้งหมดของเจ้าของ และพลังงานใกล้ๆที่ซ้อนทับในออร่าเข้ามาไว้ด้วย ซึ่งย่อมมีทั้งดีและไม่ดี

ลูกประคำหิน คริสตัลจะเก็บกักความเย็น ลูกระคำไม้ประเภทหรือเมล็ดพันธ์บางชนิด ให้พลังงานที่อบอุ่น ส่งความร้อนขึ้นในมือได้เร็วกว่าหิน ลูกประคำจากเมล็ดรุทรักษะซึมซับกระแสปราณจากต้นรุทรักษะที่อายุยืนยาวหลายร้อยปีไว้ "เบื้องบน เท่ากับ เบื้อล่าง" ยอดต้นไม้สูงเสียดฟ้าแผ่กว้างเท่าใด รากไม้ก็แผ่กว้างซอนไซหยั่งลงลึกเท่ากัน ต้นไม้อายุยืนจึงมีพลังปราณโลกและปราณจักรวาลสะสมไว้สูงมาก พลังงานเหล่านั้นปรากฏอยู่ในผลเช่นกัน เมล็ดรุทรักษะมีร่องรอยขรุขระ อากาศที่ไหลผ่านเมล็ดสร้างพลังกระแสน้ำวนเล็กๆ ซ้อนทับไว้มหาศาล เมล็ดที่แข็งแกร่งหลายชั้นบันทึกข้อมูลจักรวาลไว้ในทุกชั้นที่เมล็ดเติบโต จำนวนหน้าของเมล็ดรุทรักษะยังเชื่อมโยงกับเรขาคณิตอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงตันเพลโต หรือ Platonic solid อีกด้วย

คุณสมบัติการผสมผสานและการประยุกต์วัตถุพลังงานของประเพณีต่างๆ คือภูมิปัญญาอันศักดิ์สิทธิ์ในการนำทางผู้คนไปสู่ "ทางลัดการยกระดับพลังชีวิตและจิตสำนึก"

Related Posts
Leave a Reply

Your email address will not be published.Required fields are marked *