ร่างกายของเป็นผู้สร้างสนามพลังงานหรือ? ความจริงก็คือตรงกันข้าม!! ร่างกายของเราเป็นการแสดงออกขั้นสุดท้ายในระนาบทางกายภาพหรือตัวตนทางจิตวิญญาณของเรา เราเป็นพลังจิตวิญญาณที่มีชีวิตอยู่ในร่างมนุษย์ ยิ่งเรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมากเท่าใด พลังงานสากลก็จะไหลเวียนผ่านตัวเราอย่างง่ายดายมากขึ้น ทำให้เกิดความสมดุลและความสมดุลในร่างกายและชีวิตของเรา ทั้งหมดนี้เป็นการแสดงออกที่ผ่านการบูรณาการอย่างสมบูรณ์ของการสั่นสะเทือนที่ซับซ้อน ที่รวมเราเป็นหนึ่ง ทั้งหมดคือมหาสมุทรแห่งพลังงานที่เราดำรงอยู่
ในขณะที่เรารับรู้ถึงการมีอยู่ของร่างกายของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้ ภายในร่างกายนี้และเซลล์ทุกเซลล์ภายในร่างกายประกอบด้วยพลังงานหรือแสง ซึ่งสั่นสะเทือนในอัตราที่ช้าพอที่จะรวมเข้ากับสสารทางกายภาพได้ ชั้นสนามพลังงานนี้มีขอบเขตกว้างไกลเกินกว่าร่างกายมาก ประกอบด้วยคลื่นความสั่นสะเทือนที่ละเอียดกว่า เบากว่า และสูงกว่ามากอยู่รอบ ๆ ร่างกายเป็นชั้นๆ สนามพลังนี้ถูกเรียกว่า "ออร่า" หรือ "สนามออร่า" "สนามพลังงาน" หรือ "ร่างกายพลังงาน"
สนามพลังงานนี้ล้อมรอบร่างกายทั้งด้านบน ด้านล่าง และด้านข้างทั้งหมด เป็นโครงสร้างพลังงานของเราที่ประกอบด้วยชั้นต่างๆ มากมาย ซึ่งเรียกว่าร่างกายละเอียดอ่อน ชั้นต่างๆ เหล่านี้บรรจุข้อมูลแห่งกรรมและความตั้งใจเฉพาะบุคคล ซึ่งขึ้นอยู่กับความถี่ของชั้นต่างๆ ซึ่งรับรู้ได้ทางกายภาพที่แสดงออกมาเป็นชั้นแสงสีที่แตกต่างกัน มีรูปร่างทรงไข่คล้ายวงรีล้อมรอบร่างกาย ชั้นพลังงานจะขยายและหดตัวได้ตามพลังงาน จิตใจ อารมณ์ และความแข็งแรงหรืออ่อนแอของสุขภาพร่างกาย หรือสภาพแวดล้อมโดยรอบ โดยจะขยายออกไป 2 เมตรหรือ 6 ฟุตรอบร่างกาย อาจสามารถขยายออกไปได้ถึง 20 เมตรหรือ 66 ฟุตรอบร่างกายก็ได้ ออร่าแต่ละชั้นจะเต้นสั่นสะเทือนเป็นจังหวะออกจากร่างกาย โดยเพิ่มระดับความสั่นสะเทือนจากชั้นแรกที่อยู่ใกล้ร่างกายมากที่สุด ไปจนถึงชั้นที่ 7 ซึ่งเป็นชั้นที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงสุด ตัวเลขคี่มักมีโครงสร้างที่ชัดเจนกว่า ในขณะที่ตัวเลขคู่จะมีพลังงานที่ไหลลื่นกว่า ตัวเลขคี่มีความสัมพันธ์แบบหยินและหยาง ทำให้พลังงานสมดุลและกลมกลืนกัน
มนุษย์คือการดำรงอยู่แบบโฮโลแกรม ที่มีพื้นฐานอยู่บนระดับมิติต่างๆ ที่ซับซ้อน ซ้อนทับกันอยู่หลากหลายมิติ ที่คันพบและบันทึกไว้ในขณะนี้มี 33 ระดับ ซึ่งในความเป็นจริงสนามออร่าอาจมีจำนวนไม่มีที่สิ้นสุดก็เป็นได้
สิ่งที่ทำงานร่วมกัน 7 ชั้นสนามออร่าคือจักระหลักทั้ง 7 ตั้งตามแนวกระดูกสันหลังในช่องพลังงานกลางของร่างกาย และยังมีจักระอื่นๆ อีกมากมายทั้งที่อยู่เหนือศีรษะและใต้ร่างกายลงไป รวมถึงจักระรองที่อยู่บริเวณรอบนอกร่างกาย จักระแต่ละแห่งเป็นศูนย์พลังงานแบบไดนามิก ที่ทั้งรับและแผ่พลังงานออกไป โดยแต่ละแห่งจะประมวลผลพลังงานจากการระดับการสั่นสะเทือนที่แตกต่าง แต่ก็ทำงานร่วมกัน จักระทั้ง 7 ทำงานสัมพันธ์กับ 7 ชั้นสนามพลังงานออร่าที่ล้อมรอบร่างกาย 7 ชั้นในใกล้ที่สุด เช่น ชั้นแรกของสนามพลังงานสัมพันธ์กับจักระราก ชั้นที่สองเป็นการแสดงออกของจักระที่สอง
- ระดับชั้นของออร่า •
ออร่ากายภาพประกอบด้วย 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นจะเกี่ยวข้องกับมิติที่แตกต่างกันของการดำรงอยู่ของเรา
1.Etheric Body
ออร่าชั้นแรก :: กายอีเธอร์
กายอีเธอร์ชั้นแรกของสนามออร่า อีเธอร์หมายถึงสถานะระหว่างพลังงานและสสาร สนามชั้นนี้แผ่ออกจากร่างกายภาพ 3-5 นิ้วรอบร่างกายและเชื่อมโยงกับกระดูกสันหลัง มีโครงสร้างคล้ายใยแมงมุมสีเทาอมฟ้า โครงสร้างของร่างกายทางกายภาพเป็นผลมาจากรูปแบบความถี่ ที่ร่างพลังงานในชั้นนี้กำหนดขึ้น สามารถเห็นชั้นของสนามออร่าเป็นแสงวาบสีน้ำเงินอมขาว ร่างอีเธอร์เป็นจุดรับรู้จักระและเส้นลมปราณ ร่างชั้นนี้มีความหนาแน่นของสนามพลังงานมากที่สุด ใกล้ชิดกับร่างกายกายภาพมากที่สุด เป็นตัวแทนของร่างกายเนื้อหนัง กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ ผิวหนัง กระดูก ฯลฯ ซึ่งมักจะเป็นชั้นของออร่าที่คนส่วนใหญ่สามารถมองเห็นได้ แสงสีของชั้นนี้ซึ่งเชื่อมต่อกับรากจักระ อาจแตกต่างกันได้ตั้งแต่สีส้มอ่อนไปจนถึงสีแดงเข้ม สีนี้เกี่ยวข้องกับความหลงใหล ความปรารถนาทางเพศ และแรงขับดัน ออร่าสีแดงเชื่อมโยงกับจักระราก แสดงออกถึงความมั่นคงสมดุลและชีวิตชีวา ความรู้สึกปลอดภัย เชื่อมโยงพลังงานของโลก ความเบิกบานสนุกสนานในชีวิต ยิ่งสีเข้มขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่าบุคคลนั้นกำลังเก็บความโกรธเกลียด หงุดหงิด ไม่พึงพอใจเอาไว้มาก (หากเป็นสีชมพูก็จะทำงานสอดคล้องกับจักระหัวใจ )
2.Emotional Body
ออร่าชั้นสอง :: กายอารมณ์
กายอารมณ์ชั้นที่สองของสนามออร่า มีความหนาแน่นน้อยกว่าร่างอีเธอร์ เช่นเดียวกับร่างอีเธอร์ก็ที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าร่างกายภาพ กายพลังงานชั้นนี้แสดงถึงอารมณ์และความรู้สึก เชื่อมโยงกับจักระกระดูกเชิงกราน ทุกปรากฏการณ์ทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นถูกบันทึกไว้ที่นี่ ร่างอารมณ์มีสีส้ม เป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์ ความอุดมสมบูรณ์ ความรู้สึกทางเพศ ความเยาว์วัย ความสุข การแลกเปลี่ยนอย่างสนุกสนานกับคนที่เรารักและสิ่งแวดล้อม เป็นชั้นออร่าที่เก็บอารมณ์เชิงลบหรือเชิงบวก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากความสัมพันธ์ที่เรามีกับผู้อื่น อารมณ์ที่ไม่ได้รับการแก้ไขและถูกกดทับอาจตกผลึกและก่อตัวเป็นรูปแบบขึ้นมาที่นี่ และสามารถแสดงเป็นสีต่างๆ ได้มากมายเป็นสีใดก็ได้ในกลุ่มสีรุ้ง สีอาจสว่างอิ่มตัวหรือมืดและขุ่นมัว แตกต่างกันไปตามอารมณ์และประสบการณ์ชีวิตต่างๆ เก็บความทรงจำเกี่ยวกับกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นอารมณ์ โดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับจักระโซลาร์เพล็กซัส ความรักและการยอมรับตัวเองมีส่วนสำคัญในการไหลเวียนของชั้นออร่านี้ กล่าวกันว่าสามารถระบุสถานะจักระได้ง่ายจากชั้นออร่านี้ ชั้นอารมณ์อาจกลายเป็นสีขุ่นมัวได้ในช่วงที่เครียดทางอารมณ์ และจะแสดงผลต่อสุขภาพ ดังนั้นควรระมัดระวังไม่ให้มีความคิดเชิงลบเมื่อคุณมีความเครียดทางอารมณ์ กลุ่มแสงสีเหล่านี้เคลื่อนที่ภายในกรอบคล้ายร่างอีเธอร์ กลุ่มรัศมีเหล่านี้จะขยายออกไปจากร่างกายประมาณ6-9 นิ้ว และแทรกซึมเข้าไปในร่างกายกายภาพและร่างกายอีเธอร์
3.The Mental Body
ออร่าชั้นที่สาม :: กายแห่งจิต
กายแห่งจิตชั้นที่สามของสนามออร่า เป็นชั้นที่ควบคุมกระบวนการคิดทางจิต การตอบสนองกิจกรรมทางเหตุผล จิตใจและปัญญาของเรา ซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเหตุผลและจิตใจของเรา ซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความคิดของเรามีความสัมพันธ์โดยตรงกับความรู้สึกของเรา ดังนั้นชั้นนี้จึงเกี่ยวข้องกับจักระโซลาร์เพล็กซัสและจักระลำคอ ความคิดเชิงลบจะดึงดูดความคิดด้านลบ ส่วนความคิดเชิงบวกจะดึงดูดอิทธิพลเชิงบวกในชีวิตของเรา กายแห่งจิตบรรจุทุกสิ่งที่เราเรียนรู้มาตลอดชีวิต ออร่าชั้นนี้มีสีเหลืองสดใส แผ่รังสีแรงที่สุดในบริเวณศีรษะ คอ และไหล่ รัศมีจะแรงขึ้นในผู้ที่ทำกิจกรรมทางจิตหรือมีจิตใจที่ตื่นตัวมากเกินไป สีเหลืองเป็นสีของจักระแสงอาทิตย์ สติปัญญา ความภาคภูมิใจในตนเอง และพลังส่วนบุคคลของเราอยู่ที่นี่ ออร่าสีเหลืองบ่งบอกถึงความสุขภายในและความสมดุลภายในตัวเรา สีเหลืองยังบ่งบอกถึงจิตวิญญาณที่ร่าเริง ความนับถือตนเองสูง การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ การเรียนรู้ความรู้ใหม่ สติปัญญาที่สูง หรือความปรารถนาในความยิ่งใหญ่ กายจิตใจละเอียดบอบบางสั่นสะเทือนสูงกว่ากายพลังงานสองชั้นแรก แผ่รังสีจากร่างกายกายภาพประมาณ 9 ถึง 12 นิ้ว สามารถขยายตัวได้เมื่อบุคคลนั้นเข้าสู่กระบวนการคิดอย่างเข้มข้น เช่นเดียวกับชั้นร่างกายอีเธอร์ ความคิดสามารถเห็นได้ รูปร่างเหล่านี้ยังถูกเคลือบด้วยชั้นสีต่างๆ ซึ่งเป็นการแผ่รังสีของร่างกายอารมณ์ สีของร่างกายอารมณ์บ่งบอกถึงอารมณ์ที่เชื่อมโยงกับรูปแบบความคิด เมื่อความคิดจดจ่อและก่อตัวได้ดีต่อสายตาของผู้ที่มีการรับรู้และพัฒนาทางจิตที่สูง รูปแบบความคิดเหล่านี้จะปรากฏชัดเจนขึ้น สิ่งนี้ช่วยให้เราทราบถึงความเป็นจริงว่าความคิดของเรากลายมาเป็นรูปร่างต่างๆ ในสนามออร่าของเราได้อย่างไร ซึ่งในที่สุดจะส่งผลต่อเนื่องไปสู่ชั้นกายพลังงานอื่นๆ และส่งผลต่อชีวิตทางกายที่เราเรียกว่า "โชคชะตา" ด้วย
4.The Astral Body
ออร่าชั้นที่สี่ :: กายดวงดาวหรือร่างอวตาร
กายดวงดาวหรือร่างอวตารชั้นที่สี่ของสนามออร่า เป็นศูนย์กลางของการเปลี่ยนแปลงและการเปลี่ยนผ่าน ระหว่างสามจักระล่างและสามจักระบน ศูนย์กลางหัวใจเป็นประตูเชื่อมต่อระหว่างกายภาพและจิตสำนึกที่สูงกว่า กายดวงดาวไร้รูปร่าง แสดงสายสัมพันธ์ทางจิตของเรากับผู้อื่น ชั้นออร่านี้เชื่อมต่อกับจักระหัวใจ เป็นกลุ่มแสงหลากสีที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในชั้นออร่าตลอดเวลา โดยจะแผ่รัศมีรอบร่างกายภาพประมาณ 12 นิ้วหรือมากกว่า สีเหล่านี้สวยงามกว่าสีที่พบในร่างกายแห่งอารมณ์ และผสมผสานกับสีเขียวและสีชมพู ที่เกี่ยวข้องจิตสำนึกแห่งความรัก เติบโตผ่านการให้และรับความรัก ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด การสร้างสายสัมพันธ์ทางจิตของเรากับผู้อื่น ออร่าจะเริ่มอ่อนแอลงในช่วงเวลาที่ยากลำบากกับคนที่รักและเลิกรากันอย่างรุนแรง ผู้มีญาณหยั่งรู้ จะเห็นปรากฏการณ์ออร่าระหว่างบุคคล โดยปรากฏเป็นก้อนสีที่เคลื่อนไปมาระหว่างบุคคล บ่อยครั้งแม้บุคคลทั้งสองจะดูเหมือนไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กันทางกายภาพก็ตาม บางทีหากมีแรงดึงดูดหรือความขัดแย้งระหว่างบุคคลสองคน สถานการณ์เหล่านี้สามารถมองเห็นได้จากรูปแบบพลังงานที่เคลื่อนไปมาระหว่างบุคคลทั้งสอง ร่างอวตารยังเป็นที่เก็บข้อมูลหรือความทรงจำของภาพทั้งหมดที่เราเคยสัมผัส สำรวจ จินตนาการ หรือฝันถึง ซึ่งรวมถึงประสบการณ์วิญญาณนอกกายเนื้อ และประสบการณ์ในฝันด้วย ร่างอวตารได้รับอิทธิพลจากข้อมูลที่ไม่ได้รับการประมวลผล ซึ่งรวบรวมได้ทุกวันผ่านประสาทสัมผัสและอารมณ์ของเรา สีเขียวและชมพูที่เชื่อมโยงกับจักระหัวใจนั้น เป็นตัวแทนของความรักและความเมตตา เมื่อมีสีเขียว/ชมพูอยู่ในรัศมีของบุคคล แสดงว่าบุคคลนั้นมีจิตใจที่อ่อนโยนและรักใคร่ มีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ พืช เพื่อน ครอบครัว และชีวิตโดยทั่วไป นี่คือจุดที่กิจกรรมที่สัญชาตญาณทั้งหมดเกิดขึ้น ปฏิสัมพันธ์ของจิตใต้สำนึกจำนวนมากเกิดขึ้นที่ระดับนี้ ซึ่งไม่มีการแบ่งแยกระหว่างวิญญาณและบุคลิกภาพ จึงมีคำกล่าวจากวรรณกรรมเจ้าชายน้อยว่า "บางสิ่งไม่อาจเห็นด้วยดวงตา ต้องสัมผัสด้วยหัวใจ" เพราะหัวใจหรือสัญชาติญาณคือเข็มทิศชีวิตแท้จริงที่เราเรียกว่า "ความรัก"
5.The Etheric Template Body
ออร่าชั้นที่ห้า :: กายแม่แบบอีเธอร์ เชื่อมโยงอาณาจักรทางกายภาพและจิตวิญญาณ
กายแม่แบบอีเธอร์ชั้นที่ห้าของสนามออร่า หรือร่างกายแห่งกรรม เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับการดำรงอยู่ ทั้งทางกายภาพและทางจิตวิญญาณของเรา มีบทบาทในการพัฒนาจิตวิญญาณ และวิธีการหล่อเลี้ยงเพื่อชีวิตที่สมดุลและสมบูรณ์ เกี่ยวข้องกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคลิกภาพและวิญญาณ จิตสำนึกได้รับการเรียนรู้ที่จะไว้วางใจ ผสมผสานรูปแบบชีวิตทั้งหมดแสดงออกเป็นบุคลิกภาพ ทั้งที่เรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตของเรา ทั้งที่สืบทอดมาจาก DNA และวัฒนธรรมความเชื่อ แสดงออกผ่านทางวิญญาณ ผ่านประวัติส่วนตัว พ่อแม่ พันธุกรรม ชีวิตในอดีต ฯลฯ ร่างแห่งกรรมเป็นที่เก็บข้อมูลหรือรอยประทับแห่งกรรมทั้งหมดของเรา นอกจากนี้ยังเป็นระดับของภารกิจและสัญญาของวิญญาณด้วย ออร่าสีฟ้าเข้มจถึงน้ำเงินเผยให้เห็นถึงบุคคลที่มีความสงบ กล้าแสดงออก และสามารถแสดงออกถึงความจริงได้ ยิ่งสีฟ้าอ่อนเท่าไร พลังงานก็จะยิ่งสงบและเป็นบวกมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากกรรมจะได้รับการแก้ไข การเสริมสร้างชั้นออร่านี้คือ.. การพูดความจริงและรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา ที่นี่ไม่จำเป็นต้องปล่อยวางและเคลียร์อะไรมากนัก แต่เป็นการเชื่อมต่อใหม่ ที่จำเป็นเพื่อให้ระดับที่สูงกว่าสามารถแสดงศักยภาพสูงสุด
ชั้นออร่านี้สร้างสสารขึ้นจากเสียง มีลักษณะเฉพาะคือความแม่นยำและความชัดเจนทางเรขาคณิต ซึ่งแตกต่างจากชั้นอารมณ์และจิตใจที่มีลักษณะผันผวน ชั้นแม่แบบจะเสถียรและกำหนดได้ชัดเจนกว่า ชั้นแม่แบบอีเธอร์ทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียวสำหรับร่างกาย โดยมีอิทธิพลต่อโครงสร้างและการทำงานของร่างกายของเรา ทำงานสัมพันธ์กับจักระลำคอ ซึ่งควบคุมเสียง การสั่นสะเทือนของเสียงและการสร้างสรรค์ หน้าที่หลักของชั้นออร่านี้คือรักษาความสมบูรณ์ของโครงสร้างร่างกาย ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาณาจักรทางกายภาพและพลังงาน(โลกจิตวิญญาน) ช่วยให้รูปร่างทางกายภาพสอดคล้องกับโครงร่างพลังงาน ชั้นนี้ยังเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการรักษาทางกายภาพ เนื่องจากเป็นชั้นที่มีรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับโครงสร้างและการทำงานของร่างกาย นอกจากนี้ ชั้นเทมเพลตอีเธอร์ยังทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บพลังงาน ให้ความมีชีวิตชีวาและการสนับสนุนแก่ร่างกาย เพิ่มการรับรู้การเติบโตและพัฒนาทางจิตวิญญาณ ผ่านการปฏิบัติต่างๆ เช่นการทำสมาธิ การจินตนาภาพ และการบำบัดด้วยพลังงาน สามารถช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับแก่นแท้ทางจิตวิญญาณและเพิ่มการรับรู้ทางจิตวิญญาณโดยรวม
นี่คือระดับที่กฎแห่งรูปแบบความไร้ตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์มีอยู่ เพลโตพูดถึงเรื่องนี้เมื่อเขาพูดถึงระดับของความคิดที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างในการแสดงออกมีอยู่ก่อนในอีเธอร์ เป็นความคิด ซึ่งเราเรียกว่ารูปแบบพลังงาน นั่นคือเรขาคณิตศักดิ์สิทธิ์ของพีธากอรัส ที่กล่าวถึงวิทยาศาสตร์แห่งอัตราส่วนที่สมบูรณ์แบบ ในดนตรี การรักษาด้วยเสียง ในธรรมชาติ (กลีบดอกไม้) ความสมมาตรในร่างกายมนุษย์ และสถาปัตยกรรม ออร่าชั้นนี้คือพิมพ์เขียวของรูปแบบของมนุษย์ สิ่งนี้สามารถรับรู้ได้เล็กน้อยเหมือนกับฟิล์มเนกาทีฟในภาพถ่าย สาระสำคัญของร่างกายปรากฏเป็นสีเข้มและว่างเปล่า เป็นเหมือนพื้นหลัง และเส้นพลังงานปรากฏเป็นสีฟ้าสดใสที่เต้นเป็นจังหวะ นี่คือเมทริกซ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ซึ่งนำหน้ารูปร่างทางกายภาพ นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกถึงความว่างเปล่าอันอนันต์ ซึ่งการแสดงออกทั้งหมดมาจากที่นั่น เป็นความสมบูรณ์และความว่างเปล่าในเวลาเดียวกัน
The Celestial Body
ออร่าชั้นที่หก :: กายเทวดาหรือกายแห่งปัญญา
กายเทวดาหรือกายแห่งปัญญาชั้นที่หกของสนามออร่า สั่นพ้องกับจักระตาที่สาม เป็นศูนย์กลางที่เราสัมผัสกับสภาวะแห่งจิตสำนึกและความรักอันเป็นสากล กายเทวดาเป็นกายอารมณ์ของระนาบจิตวิญญาณ ในขณะที่กายดวงดาวและจักระหัวใจเป็นสนามพลังงานที่แสดงความรักต่อมนุษยชาติ กายดวงดาวเมื่อเชื่อมต่อกับกายเทวดาสร้างความรู้สึกถึงความรักสากลที่ไม่มีเงื่อนไข เข้าถึงการตระหนักรู้ และความรู้สึกอันลึกซึ้ง เป็นจุดที่จะระลึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับแหล่งกำเนิด แสง และการดำรงอยู่ทั้งหมด แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างเรากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (และสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด) การเชื่อมโยงกับครอบครัววิญญาณ/เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวของเรา หรือสัญญาที่สูงกว่า ชั้นออร่านี้คือที่ที่เราประทับรอยการเริ่มต้นทางจิตวิญญาณในอดีตหรือปัจจุบันของเรา มีพลังสั่นสะเทือนที่แรงและทรงพลัง ออร่าชั้นนี้แผ่รัศมีออกไปไกลรอบร่างกายได้ถึงห้าฟุตหรือมากกว่า มีความหนาแน่นและชัดเจนน้อยกว่าร่างแม่แบบอีเธอร์ กายเทวดาเป็นสีน้ำเงิน มีคุณสมบัติแสงเหมือนกับแสงเรืองรองรอบเปลวเทียน เมื่อชั้นออร่านี้แข็งแกร่งขึ้น จะเพิ่มความสามารถในการสื่อสารกับอาณาจักรวิญญาณ และรับข้อความจากทูตสวรรค์ได้
ออร่าสีครามบอกถึงบุคคลที่มีความสอดคล้องกับตัวตนที่สูงขึ้น สัญชาตญาณ และความรู้ภายในของตนเอง สีครามเป็นสีของจักระตาที่สาม ความสามารถในการมองเห็น จินตนาการ การแสวงหาความจริงที่ไม่รู้จักทางจิตวิญญาณ และความปรารถนาอันสูงส่งของเรา เป็นระดับของการทำสมาธิมากกว่าการคิดเพียงอย่างเดียว เป็นการพิจารณามากกว่าการวิเคราะห์ เป็นระดับที่เชื่อมต่อพลังงานบุคคลกับมิติอื่นๆ เช่น มิติที่ 4 ซึ่งเป็นที่ที่คนที่เรารักที่เสียชีวิตและวิญญาณบรรพบุรุษอาศัยอยู่ เป็นระดับของแรงบันดาลใจและแม่แบบสำหรับความรู้สึกเกี่ยวกับตนเอง ระดับนี้เชื่อมโยงกับจักระคิ้ว จิตวิญญาณได้รับการหล่อเลี้ยงในระดับนี้ด้วยความงามของธรรมชาติ ดนตรี ศิลปะ การทำสมาธิ และการสวดมนต์ ความรู้สึกชื่นชม เกียรติยศ ความเคารพ และความกตัญญูกตเวทีเป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุระดับจิตสำนึกนี้
The Ketheric Template or Causal Body
ออร่าชั้นที่เจ็ด :: ชั้นแม่แบบเคเธอร์ริคและจิตวิญญาณ จุดสูงสุดของพลังงานทางจิตวิญญาณ
แม่แบบเคเธอร์ริคการรับรู้ที่สูงกว่าชั้นที่เจ็ดของสนามออร่า ตั้งชื่อตาม Kether ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดจาก Sephirot ทั้งสิบชั้นใน Kabbalistic Tree of Life ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมงกุฎศักดิ์สิทธิ์หรือจิตสำนึกสูงสุด แม่แบบเคเธอร์ริคเชื่อมโยงกับตัวตนที่สูงกว่า จุดมุ่งหมายทางจิตวิญญาณ และแหล่งที่มาอันศักดิ์สิทธิ์ ออร่าชั้นนี้มีสีม่วง ทำงานกับจักระมงกุฎและจิตสำนึกของจักรวาล ที่ออร่าระดับนี้จิตวิญญาณจะไม่ประสบกับรูปแบบหรือรอยประทับของความเจ็บปวดและความกลัว ที่เชื่อมโยงกับการจุติในกาแล็กซีหรือในมิติอื่นๆ ผู้ที่มีรัศมีสีม่วงจะเป็นผู้ที่สามารถรับรู้ถึงสัญชาตญาณ รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับทุกคน และมองเห็นภาพรวมได้กว้างไกล ผู้ที่มีรัศมีสีม่วงจะมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับแหล่งที่มา และมีความสามารถในการเชื่อมโยงหรือรับการเปิดเผย พวกเขาชอบที่จะชี้นำผู้อื่นให้บรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง และมักจะแสดงออกทางศิลปะได้ดี สามารถสัมผัสได้ถึงความปีติทางจิตวิญญาณ และระนาบจิตวิญญาณ ที่ระดับนี้ จักระมงกุฎและจักระรากจะเปิดออก เมื่อจิตสำนึกไปถึงระดับนี้ การหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สร้างจะปรากฏขึ้น เป็นชั้นออร่าที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นที่สุด ซึ่งประกอบด้วยกระแสพลังงานหลักที่วิ่งขึ้นและลงกระดูกสันหลังเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายทั้งหมด นี่คือชั้นของความคิดสร้างสรรค์อันบริสุทธิ์ ในระดับจิตสำนึกนี้ เราจะเข้าใจรูปแบบที่สมบูรณ์แบบของสิ่งต่างๆ (ด้านบนและด้านล่าง) และบรรลุธรรม ชั้นนี้ยังมี 'ธนาคารข้อมูลทางจิต' สำหรับชีวิตในภพชาตินี้ ซึ่งเรียกว่า "จุดประสงค์ของวิญญาณหรือจุดประสงค์ของชีวิต"
รัศมีของแม่แบบเคเธอร์ริคแผ่ออกจากร่างกายประมาณเกินกว่าสามฟุต โครงสร้างคล้ายรูปไข่ที่แข็งแกร่ง ช่วยให้สามารถบรรจุและปกป้องกายพลังงานอื่นๆ ทั้งหมดในสนามออร่า เป็นออร่าชั้นสุดท้ายของชั้นร่างกายพลังงานของมนุษย์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเส้นทางชีวิตของบุคคลในร่างปัจจุบันของพวกเขา มีรอยประทับที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในอดีต กับร่างปัจจุบัน และร่างจิตของโลกแห่งจิตวิญญาณ แม่แบบเคเธอรืริคนี้เก็บข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับวิญญาณ และชีวิตในอดีตที่เคยผ่านมา เมื่อแข็งแกร่งขึ้นจะเพิ่มอำนาจการเข้าถึงเส้นทางแห่งความศักดิ์สิทธิ์ และเพิ่มความสามารถทางจิต เชื่อกันว่ายังมีออร่าอีกหลายชั้นที่ยังไม่ได้ถูกค้นพบ ซึ่งจะถูกเปิดเผยแก่เราเมื่อเรามีจิตสำนึกที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ออร่ากายชั้นนี้เปรียบเหมือนไข่ที่ยืดหยุ่นได้ของเส้นด้ายแสงสีทองที่เคลื่อนที่เร็วมาก การเต้นของเส้นด้ายแสงสีทองเหล่านี้เร็วมาก จนอาจดูเหมือนระยิบระยับสำหรับประสาทสัมผัสที่มองเห็นล่วงหน้า มันยึดรูปร่างออร่าทั้งหมดทุกชั้นเข้าไว้ด้วยกัน สำแดงให้รู้ว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับผู้สร้าง
ลักษณะของชั้นเคเธอร์ริคและจิตวิญญาณ
ชั้น Ketheric มีแสงสีทองเงินที่ส่องประกาย ก่อตัวเป็นรัศมีรูปไข่รอบออร่าทั้งหมด ทำหน้าที่เป็นแม่แบบสำหรับออร่าทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วยแผนผังของการเดินทางของวิญญาณและบทเรียนทางจิตวิญญาณ การไหลของพลังงานในชั้นเคเธอร์ริคได้รับการปรับแต่งอย่างสูง โดยสั่นสะเทือนที่ความถี่สูงสุดในบรรดาชั้นออร่าทั้งหมด
ชั้นเคเทอร์ริคกับการพัฒนาจิตวิญญาณ
ชั้นเคเธอร์ริคสำคัญต่อการพัฒนาจิตวิญญาณ เชื่อมโยงเรากับตัวตนที่สูงกว่าและแหล่งที่มาอันศักดิ์สิทธิ์ ชั้นคเทอร์ริคเป็นพิมพ์เขียวของจุดประสงค์ของจิตวิญญาณ บทเรียนทางจิตวิญญาณ และรูปแบบกรรม การมีส่วนร่วมกับชั้นเคเทอร์ริคสามารถนำไปสู่ความเข้าใจทางจิตวิญญาณที่ล้ำลึก การตระหนักรู้ในตนเอง และการเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีสนามพลังงานอยู่รอบๆ ตัว ซึ่งเรียกว่า ออร่า ออร่าจะสั่นสะเทือนในความถี่ที่สูงกว่าร่างกาย ซึ่งเป็นเหตุว่าทำไมเราจึงมองเห็นออร่าได้ไม่บ่อยนัก เมื่อคนเรามีความสุขและมีชีวิตชีวา ออร่าของคนๆ นั้นก็จะสดใสและชัดเจน และมีสีสัน แต่เมื่อรู้สึกหดหู่หรือวิตกกังวล ออร่าของคนๆ นั้นก็อาจจะขุ่นมัวและมืดมน สีสันเป็นส่วนสำคัญในการอ่านออร่า หากร่างกาย จิตใจ อารมณ์ หรือจิตวิญญาณของเราไม่สมดุล ออร่าจะสะท้อนความไม่สมดุลนี้ออกมาเป็นเงาหรือจุดดำ บาดแผลในทุกระดับจะสะท้อนออกมาเป็นรอยฉีกขาดหรือรูในออร่า "ร่างกายสะท้อนถึงความไม่สมดุลเหล่านี้และจิตใต้สำนึกของเรา"
แหล่งอ้างอิง :: Hands of Light A Guide to Healing Through the Human Energy Field :: Your Body Speaks your Mind โดย Debbie Shapiro
